ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา

เลขาธิการ กอศ.ตั้งเป้า ปีการศึกษา 2566 เพิ่มผู้เรียนทวิภาคี 30%

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) อยู่ระหว่างกำหนดปฏิทิน และจัดทำ แนวโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียน นักศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 เบื้องต้น ตนได้มอบนโยบายไปว่า ในปีการศึกษา 2566 สอศ. จะมีเป้าหมายเพิ่มผู้เรียนระบบทวิภาคี แบ่งเป็น สถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน เดิมมีผู้เรียนระบบทวิภาคี 15% ปีการศึกษา 2566 จะเพิ่มผู้เรียนให้ได้ 25% ส่วนสถานศึกษาอาชีวศึกษารัฐ เดิมมีผู้เรียนระบบทวิภาคี 20% ปีการศึกษา 2566 จะเพิ่มผู้เรียนให้ได้ 30%

ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าวต่อว่า การเพิ่มผู้เรียนระบบทวิภาคี เป็นหนึ่งใน 7 นโยบายเร่งด่วนที่ตนวางไว้ เพราะพบว่าภาคเอกชนต้องการแรงงานที่จบจากอาชีวะจำนวนมาก จึงสนใจและอยากจะร่วมมือกับ สอศ.เพื่อพัฒนาและจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา (ศธ.) ที่มอบให้ตนจัดการศึกษาร่วมกับภาคเอกชนให้มากขึ้น

ซึ่งการเรียนระบบทวิภาคี จะเป็นการสร้างโรงงานในวิทยาลัย และสร้างวิทยาลัยในโรงงาน คือ ฝึกอาชีพในวิทยาลัย และให้เด็กไปฝึกประสบการณ์ในโรงงาน ทำให้เด็กมีอาชีพ มีเงินฝาก มีรายได้ระหว่างเรียน ที่สำคัญคือช่วยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานด้วย

เลขาธิการ กอศ.ตั้งเป้า ปีการศึกษา 2566 เพิ่มผู้เรียนทวิภาคี 30%

“ปัจจุบันสอศ. ขาดแคลนบุคลากร 1.8 หมื่นอัตรา หากวางแผนเพิ่มผู้เรียนระบบทวิภาคีเพิ่มขึ้น จะทำอย่างไรให้มีบุคลากรเพียงพอกับผู้เรียนที่เพิ่มขึ้น ผมมองว่าระบบทวิภาคี จะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรของ สอศ.​อีกทางหนึ่ง เพราะการเรียนทวิภาคี จะเปิดให้ เอกชนเข้ามาช่วยจะสนับสนุนอุปกรณ์ และบุคลากรในการสอนเด็ก นอกจากนี้ ผมได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) แล้ว เพื่อให้ ก.ค.ศ. นำปัญหาดังกล่าวเสนอที่ประชุม ก.ค.ศ. เพื่อขออัตรากำลังเพิ่ม เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรอีกทางหนึ่ง เพราะขณะนี้พบว่าเด็กเริ่มสนใจ เข้ามาเรียนสายอาชีพเพิ่มมากขึ้น” ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว

ว่าที่ร้อยตรีธุ กล่าวอีกว่า ในปีการศึกษา 2566 นอกจากจะเน้นการเรียนระบบทวิภาคีแล้ว จะเน้นหลักสูตรทวิศึกษาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนตามโครงการพระราชดำริ และโรงเรียนที่มีความพร้อม เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้นักเรียนเหล่านี้ด้วย

ขณะนี้ เริ่มประสานกับทาง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อทราบจำนวนเด็กนักเรียนที่จะจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีความต้องการเรียนต่อสายอาชีพ เพื้นเตรียมความพร้อม และให้คำแนะนำการรับ-ส่งต่อนักเรียนที่มุ่งเข้าสู่สายอาชีพแล้ว

“สำหรับการวางมาตรการป้องกันนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ทะเลาะวิวาทกันนั้น เมื่อเร็วๆนี้ ผมได้หารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และได้กำหนดมาตรการร่วมกันว่า ต่อไปนี้อย่าให้มีสัญลักษณ์อะไรที่เป็นเหตุของการเกิดเหตุทะเลาะวิวาท เช่น ไม่ให้นักเรียน นักศึกษาใส่เสื้อช็อปออกจากสถานศึกษา ให้ใส่เสื้อช็อปเฉพาะตอนเรียนปฏิบัติเท่านั้น พร้อมกับประสานตำรวจ และครูร่วมกันเฝ้าระวัง และวางระบบทางกลับบ้านของนักเรียน นักศึกษา ร่วมกัน เพื่อให้ไม่มาเจอกันและก่อเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างทางกลับบ้าน ”ว่าที่ร้อยตรีธนุ กล่าว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ domainedesdeuxarcs.com

ufa slot

Releated